ประวัติ ของ พระรัตนธัชมุนี (แบน คณฺฐาภรโณ)

พระรัตนธัชมุนี มีนามเดิมว่า แบน ฤทธิโชติ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2427 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก เวลา 22.15 น. เป็นบุตรของหมื่นทิพยจักษุ (ขาว ฤทธิโชติ) กับนางเป็ด นามสกุลเดิม ธรรมิกกุล ภูมิลำเนาอยู่บ้านดอนทะเล หมู่ 2 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ท่านมีพี่น้องร่วมมารดาบิดาเดียวกัน 3 คน ชื่อสิน เรือง และขาบ ตามลำดับ[1] ต่อมาได้เรียนหนังสือที่วัดจนจบชั้นประถมศึกษา[2]

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2447 ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง ได้อุปสมบท ณ นทีสีมา หน้าวัดท่าโพธิ์ โดยมีพระครูเหมเจติยานุรักษ์ (เนียม ธมฺมปาโล) วัดพระนคร ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระศิริธรรมมุนี (ม่วง รตนทฺธโช) เจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราชขณะนั้น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า คณฺฐาภรโณ[1]

หลังจากอุปสมบทได้ศึกษาที่วัดท่าโพธิ์ ถึงปี พ.ศ. 2454 พระรัตนธัชมุนี (ม่วง รตนทฺธโช) ได้ส่งไปศึกษากับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปีนั้น หลังจากนั้นได้ติดตามพระอริยกระวี (เซ่ง อุตฺตโม) ในฐานะพระปลัดฐานานุกรมของท่านไปอยู่วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร ศึกษาต่อที่สำนักนั้นจนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยคในปี พ.ศ. 2456 และได้เปรียญธรรม 4 ประโยคในปี พ.ศ. 2458 แล้วหยุดสอบเพียงแค่นั้น เพื่อไม่ให้สูงกว่าอาจารย์คือพระรัตนธัชมุนี (ม่วง) ซึ่งได้เปรียญธรรม 4 ประโยคเช่นกัน[2] ในปีนั้นท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูปริตรฐานานุกรมในสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ แล้วมีพระบัญชาให้ท่านไปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร จนถึงปี พ.ศ. 2461 จึงย้ายกลับมาอยู่วัดบวรนิเวศวิหาร ทำหน้าที่เลขานุการในสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ[3]

ปี พ.ศ. 2462 ลาออกจากตำแหน่งเลขานุการในสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ กลับไปเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่วัดท่าโพธิ์[3] เมื่อเจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์มรณภาพ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดนั้นนานถึง 7 ปี แล้วจึงย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นอกจากนี้ท่านยังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 แล้วเลื่อนเป็นเจ้าคณะจังหวัดในปี พ.ศ. 2470 และเป็นรองเจ้าคณะภาค (ธรรมยุต) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ตราบจนมรณภาพ[4]

ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2480 โปรดให้ตั้งเป็นพระคณาจารย์โท ในทางแสดงธรรม[5]